การซื้อกิจการ Fox ของ Disney

หลังจากข่าวการซื้อกิจการของ 21st Century Fox โดย The Walt Disney Company เสร็จสมบูรณ์ไป ซึ่งการตรงลงกันระหว่างสองค่าย ในครั้งนั้น ก็กินเวลานานถึง 6 เดือนเลยทีเดียว กว่าจะสำเร็จเสร็จสิ้น โดยทาง ดิสนีย์ ได้ยื่นข้อเสนอมูลค่า 7.13 หมื่นล้านเหรียญ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา มากกว่า Comcast ที่ยืนข้อเสนอในการซื้ออยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านเหรียญ นั่นทำให้ ดิสนีย์ ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์รายใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดในปัจจุบันนี้

การซื้อกิจการครั้งนี้เพิ่งได้รับอนุมัติขั้นสุดท้ายจากหน่วยงานป้องกันการผูกขาดทางการค้าทั่วโลกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความเข้มข้นของการตรวจสอบเกิดขึ้นเพราะจำนวนเงินมหาศาลที่เกิดขึ้นจากดีลนี้ แม้ว่าดีลนี้จะไม่ได้ซื้อทั้ง Fox Corp. เพราะ Fox จะยังสามารถทำงานได้อย่างอิสระผ่านสถานีข่าวอย่าง Fox News และ Fox Sports ในสหรัฐอเมริกาได้ต่อไป หลังจากผ่านกำหนดการควบรวมกิจการที่จะมีผลอย่างเป็นทางการ เวลา 00:02 น. วันที่ 20 มีนาคม 2019 ตามเวลาสหรัฐฯ (ตรงกับ 11.02 น. ในประเทศไทย)

Bob Iger ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิสนีย์ แถลงในจดหมายประชาสัมพันธ์ ว่า เวลานี้เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับบริษัท เพราะเป็นช่วงเวลาที่จะสร้างคุณค่าระยะยาวที่สำคัญให้ ดิสนีย์ และผู้ถือหุ้น แถมยังบอกว่าการรวมเนื้อหาของ ดิสนีย์ และ 21st Century Fox รวมถึงทีมงานคุณภาพที่ผ่านการพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้ว จะส่งให้ทั้งคู่เป็นผู้นำได้ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนไป

การซื้อกิจการ Fox ของ Disney

ผู้บริหาร ดิสนีย์ ย้ำว่าการซื้อแฟรนไชส์ของ Fox จะช่วยให้ ดิสนีย์ สามารถสร้างเนื้อหาและความบันเทิงที่สุดยอดยิ่งขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจและตอบความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มโอกาสในการบุกตลาดโลกระดับสากล และการขยายธุรกิจในรูปบริการวิดีโอแบบ direct-to-consumer offering ซึ่งเป็นบริการที่ผู้บริโภคจะซื้อเนื้อหาเพื่อรับชมได้โดยตรงสไตล์ Netflix

ติดอาวุธ สู้ Netflix

“direct-to-consumer offering” ที่ ดิสนีย์ มีอยู่แล้วในขณะนี้คือสถานีกีฬา ESPN+ และรายการทั่วไปอย่าง Disney+ คู่ไปกับการลงทุนต่อเนื่องในบริการสตรีมมิ่งอย่าง Hulu แต่ทั้งหมดนี้ถือว่าไม่พอในการสู้กับ Netflix หรือบริษัทยุคใหม่มาแรงรายอื่น ซึ่งนับจากวันนี้ไป ดิสนีย์ จะมีอาวุธครบมือมากขึ้นจาก 13 ส่วนธุรกิจที่ ดิสนีย์ ได้รับจากการซื้อกิจการ Fox ครั้งนี้

สรุป 13 ส่วนธุรกิจที่ ดิสนีย์ ได้รับจากการซื้อกิจการ Fox ได้แก่

  1. 21st Century Fox
  2. Fox Searchlight Pictures
  3. Fox 2000 Pictures
  4. Fox Family
  5. Fox Animation
  6. 21st Century Fox Television
  7. FX Productions
  8. Fox21
  9. FX Networks
  10. National Geographic Partners
  11. Fox Networks Group International
  12. Star India
  13. หุ้นของ Fox ใน Hulu, Tata Sky และ Endemol Shine Group

หลังจากวันนี้ Fox ของเจ้าพ่อมหาเศรษฐี Rupert Murdoch วัย 88 ปีจะยังคงมีชีวิตอยู่ แต่จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนที่เคย รายงานล่าสุดระบุว่า Fox กำลังจะแยกบริษัทใหม่หรือ spinoff เพื่อสานต่องานผลิตช่องสถานีข่าวอย่าง Fox News Channel, Fox Business Network, Fox Broadcasting Company, Fox Sports และ Fox Televisions Stations Group รวมถึงเครือข่ายเคเบิลทีวีในสหรัฐฯ อย่าง FS1, FS2, Fox Deportes และ Big Ten Network

สำหรับ ดิสนีย์ มหากาพย์การต่อสู้ของ ดิสนีย์ จะยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง โดยในช่วงก่อนที่จะมีการเผยดีลซื้อกิจการของ Fox เจ้าพ่ออย่าง ดิสนีย์ ก็เทงบสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ตลอดปี 2019 โดยลำพัง ทั้ง Captain Marvel ที่เริ่มฉายไปแล้ว ยังมี Avengers: Endgame ที่กำลังจะชนโรงในเดือนเมษายนนี้ รวมถึงการ์ตูนอย่าง Dumbo, Aladdin, Lion King, Frozen 2 และเรื่องราวอมตะอย่าง Star Wars: Episode IX

สิ่งที่โลกเชื่อว่าจะได้เห็นหลังจากการปิดดีลวันนี้ คือ Hulu จะแจ้งเกิดในตลาดโลกตามรอย Netflix โดยขณะนี้ ดิสนีย์ มีสัดส่วนการถือหุ้น 60% ใน Hulu และ Hulu มีสมาชิกราว 25 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา จุดนี้ผู้บริหาร ดิสนีย์ แสดงจุดยืนชัดเจนว่า Hulu ยังต้องมีการพัฒนาระบบในด้านการโปรแกรมมิ่งอีกมาก จึงจะสามารถขยายบริการไปยังยุโรปหรือพื้นที่อื่นของโลกได้ ซึ่งหากทำได้ก็จะทำให้ Hulu เป็นคู่แข่งกับ Netflix โดยตรง

การแตกไลน์แหวกกฎเจ้าหญิง

ซีอีโอ ดิสนีย์ ย้ำว่า ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาอันดับ R อย่าง Deadpool ก็จะไม่ถูกแทรกแซง รวมถึงซีรีส์และภาพยนตร์จากสตูดิโอที่เคยอยู่ในร่มเงา Fox ก็จะไม่มีการปรับให้อ่อนลง ต่างจากที่ Hulu เคยต้องปฏิบัติตามกฎ “เป็นมิตรกับครอบครัว” ของ ดิสนีย์ มาก่อน จนขณะนี้มีการปรับให้ Hulu สามารถตอบโจทย์ผู้ชมกลุ่มผู้ใหญ่ได้มากขึ้น

เหนืออื่นใด ดีลระหว่าง ดิสนีย์ และ Fox อาจจะทำให้มีพนักงานประมาณ 4,000 คนถูกปลดออกจากงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่มีบทบาทซ้ำซ้อนกัน จุดนี้นักวิเคราะห์ Rich Greenfield เคยให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter ว่าจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบอาจมีมากถึง 8,000 คนก็ได้

อำนาจในการควบคุมของ Disney ต่อ Fox

การซื้อกิจการ Fox ของ Disney

20th Century Fox เป็นหนึ่งในสตูดิโอภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของฮอลลีวูด โดยได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 1935 โดยการควบรวมกันของ Twentieth Century Pictures กับ Fox Film และมีผลงานภาพยนตร์ระดับประวัติศาสตร์อย่าง Star Wars เมื่อปี 1977 ที่กลายเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงมากในปัจจุบันนี้ นอกจากนี้ ดิสนีย์ ยังจะได้ครอบครองแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอีกอย่าง

  • Alien
  • Predator
  • Planet of the Apes
  • Kingsman
  • Avatar
  • Independence Day
  • Die Hard
  • Deadpool
  • X-Men
  • Fantastic Four

และได้ครอบครองภาพยนตร์ 2 เรื่องที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกอย่าง Avatar และ Titanic ด้วย

Fox Searchlight Pictures ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1994 โดยเป็นผู้จัดจำหน่ยภาพยนตร์อิสระ โดยมีผลงานระดับรางวัลอย่าง

  • Slumdog Millionaire
  • 127 Hours
  • Black Swan
  • 12 Years a Slave
  • Birdman
  • Brooklyn
  • Three Billboards Outside Ebbing
  • Missouri
  • The Shape of Water
  • Can You Ever Forgive Me?
  • The Favourite

นอกจากนี้ Fox ยังมีอีกหลายสตูดิโอที่อยู่ในความดูแล ไม่ว่าจะเป็น

  • 20th Century Fox Animation
  • Zero Day Fox (อดีตเป็น Fox Digital Studios)
  • Fox 2000 (จัดจำหน่าย Love, Simon และ The Hate U Give)

ในขณะนี้ ดิสนีย์ได้ยืนยันแล้วว่าจะปิด Fox 2000 ลง

นอกเหนือจากภาคธุรกิจภาพยนตร์ระดับแนวหน้าแล้วนั้น ดิสนีย์ ยังได้เข้าควบคุมรายการโทรทัศน์จาก Fox Television Group ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1949 โดยมี  20th Century Fox Television รวมอยู่ด้วย

รายการโทรทัศน์ระดับประวัติศาสตร์ของ Fox Television Group มีอยู่อย่างมากมาย เช่น

  • M*A*S*H
  • LA Law
  • The Simpsons (ยังออนแอร์มาจนถึงทุกวันนี้ รวมแล้ว 29 ซีซันแล้ว นับตั้งแต่ปี 1989)
  • Modern Family (ออนแอร์มาตั้งแต่ปี 2009)

นอกจากนี้ยังได้ครอบครองเครือข่ายเคเบิล FX ซึ่งมีซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมากในปัจจุบันอย่าง

  • American Horror Story
  • American Crime Story
  • Legion
  • Atlanta
  • It’s Always Sunny in Philadelphia

อีกทั้งยังได้ครอบหุ้น 73% ของ National Geographic Partners ที่ดูแลช่องต่างๆ ของ National Geographic อีกด้วย

นอกจากนี้ ดิสนีย์ ยังได้ครองครองอีกหลายส่วนจากดีลซื้อกิจการ  21st Century Fox ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น

  • Fox Networks Group International ซึ่งมีสาขาย่อยทั้งในเอเชีย, ยุโรป และลาตินอเมริกา
  • Star India เป็นบริษัทกลุ่มสื่อในประเทศอินเดีย มีผู้ชมมากถึง 720 ล้านวิวต่อเดือน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 30% ของผู้ให้บริการออกอากาศทีวีในประเทศอินเดีย
  • ถือหุ้น 50% ของ Endemol Shine Group บริษัทสัญชาติดัตช์ที่ผลิตรายโทรทัศน์สุดฮิตอย่าง Black Mirror, Peaky Blinders และแฟรนไชส์ Big Brother
  • Blue Sky Studios บริษัทอนิเมชันที่สร้างแฟรนไชส์ Ice Age และ Rio รวมถึง The Peanuts Movie
  • ครองหุ้นของบริการสตรีมมิง Hulu ถึง 30% ของที่ Fox เป็นเจ้าของอยู่ โดยมีรายงานว่า Hulu จะให้บริการแยกออกมาจากDisney Plus ซึ่งจะมีภาพยนตร์เรต R ของ Touchstone Pictures ที่ ดิสนีย์ เป็นเจ้าของ เป็นเนื้อหาสุดพิเศษด้วย

การตัดชื้อ Fox ออกจากโลโก้

และล่าสุดหลังจากถูกควบรวมกิจการด้วยมูลค่าซื้อขาย 71,000 ล้านเหรียญฯ ไปอยู่ภายใต้หลังคาของค่าย ดิสนีย์ต้ังแต่ 20 มีนาคม 2019 หลังจากนั้นเป็นต้นมา 20th Century Fox ก็ถูกลดบทบาทลงเหลือแค่เป็นสตูดิโอหนึ่งภายใต้ ดิสนีย์ เช่นเดียวกับ Marvel Studios หรือ Pixar Studios โดยมีการตัดชื่อคำว่า Fox ออก ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2020 เหลือแค่ 20th Century Studios หรือ 20th Television สำหรับผลงานที่ออกอากาศทางทีวี ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ดิสนีย์ ได้ประกาศลบชื่อ Century เพิ่มเติม

การเปลี่ยนแปลงไตเติลโลโก้และโลโก้ในครั้งนี้ มีรายงานว่า ABC Studios, ABC Signature Studios ช่องโทรทัศน์ที่เดิมเป็นของ Fox ผู้ผลิตซีรีส์ดังอย่าง Grey ‘s Anatomy และ Marvel ‘s Agents of S.H.l.E.L.D ก็จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ABC Signature ส่วน Fox 21 Television Studios จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Touchstone Television ซึ่ง Touchstone นั้นก็เป็นชื่อค่ายหนังของ ดิสนีย์ ที่มีผู้อำนวยการสร้างชื่อดัง Jerry Bruckheimer เป็นเบอร์หนึ่งในการบริหารอยู่นั่นเอง

โลโก้ 20th Television จะยังคงไตเติลโลโก้ที่อยู่ภายใต้ไฟสปอตไลต์ต่อไปในผลงานทางทีวีต่อไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ ระหว่างที่ ดิสนีย์ กำลังออกแบบไตเติลโลโก้เปิดรายการแบบใหม่ระหว่างนี้ ซึ่งเหตุผลที่ ดิสนีย์ ล้างทุกภาพจำของทรัพย์สิน Fox ที่มาอยู่กับ Disney ก็เพื่อป้องกันความสับสนที่คนทั่วไปจะมีต่อแบรนด์ เนื่องจากฟากฝั่ง Fox เองก็ยังคงดำเนินธุรกิจหลายอย่างที่ไม่ได้ขายให้ดิสนีย์ ต่อ เป็นต้นว่า Fox Entertainment, Fox Sports และ Fox News

ค่ายหนังและบริษัท 20th Century Fox ก่อตั้งเมื่อปี 1935 เป็นการรวมตัวกันของ Twentieth Century Pictures และ Fox Films เป็นสตูดิโอที่สร้างผลงานสำคัญ ๆ ให้กับฮอลลีวูดและวงการภาพยนตร์โลกมาตลอดเช่น Star Wars, The Sound of Music, Alien, Die Hard และ Home Alone รวมถึงลิขสิทธิ์เพลงที่เกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ ซึ่งในยุค 80s-90s นั้นทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับค่ายหนังต่างจากยุคปัจจุบัน นอกจากนั้น 20th Century Fox ยังเป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์และซีรีส์ดังอย่าง The Simpsons และ Modern Family ด้วย

ส่วนทางด้าน Fox ในยุคใหม่หลังหั่นชิ้นเนื้อไปให้ ดิสนีย์ แล้วนั้น Fox ยุคใหม่จบปีแรกด้วยตัวเลขรายได้ 11,389 ล้านเหรียญฯ ท่ามกลางการถูกจับตามองเรื่องการนำเสนอข่าวเอาใจรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันมากขึ้นผ่านช่องข่าว Fox News อย่างเช่นข่าวเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนที่นำเสนอข่าวบิดเบือน ตรงข้ามกับปัญหาในความเป็นจริง

บานปลายเป็นความขัดแย้งภายในครอบครัวระหว่าง Lachlan Murdoch กับ James Murdoch ลูกชายคนโตและคนเล็กของ Rupert Murdoch ผู้ก่อตั้ง Fox และเป็นเจ้าสัวคนปัจจุบัน โดย James ได้วิจารณ์ข่าวของ Fox News ที่พี่ชาย Lachlan นั่งแท่นบริหารเป็น CEO อยู่ว่า “หลอกลวงประชาชน” ยิ่งไปกว่านั้น James ยังออกตัวแรงสนับสนุน Joe Biden จากพรรคเดโมแครต ต่างจากพ่อและพี่ชายที่สนับสนุน Donald Trump และพรรครีพับลิกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

อย่างไรก็ตาม เหล่าสาวก ดิสนีย์ และ Fox ก็ยังคงต้องติดตามข่าวกันต่อไป ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก

อินทผลัม ผลไม้ที่เต็มไปด้วยประโยชน์ ผลไม้ตากแห้ง ที่มีชื่อว่า อินทผลัม ซึ่งมีลักษฯเป็นผลรีๆ เล็กๆ สีน้ำตาลเข้ม วางขายอยู่ตามแผงผลไม้ตากแห้ง ที่จริงแล้วนอกจากจะเป็นผลไม้ต่างถิ่นที่มีราคาค่อนข้างสูงแล้ว ยังมีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพอีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม : ลูกพลับ กับ 5 ประโยชน์ดีๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้