รู้หรือไม่ ถ้าดวงอาทิตย์หายไป จะเกิดอะไรขึ้น
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ดวงอาทิตย์ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ให้ความอบอุ่น และสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตมหาศาล แล้วถ้าจู่ๆ ถ้าดวงอาทิตย์หายไป นั้นมันจะส่งผลต่อระบบสุริยะของเราอย่างไร โดยเฉพาะโลกที่เราอยู่อาศัย หลายคนคงมีคำตอบไว้แล้วบ้างแหละว่าจะเกิดอะไรขึ้น มาดูกันเลยว่ามันจะส่งผลกระทบกับเราอย่างไรบ้าง ถ้าคุณได้อ่านแล้วคุณไม่อยากให้มันดับลงแน่นอน ถึงแม้มันจะทำให้เราร้อนก็แทบตายก็ตาม

ถ้าดวงอาทิตย์หายไป จากระบบสุริยะจักรวาล
- ภายในระยะเวลาประมาณ 8 นาที ดาวเคราะห์ที่อยู่รอบๆจะหยุดลง เนื่องจากไม่มีแรงโน้มถ่วงจากดวงอาทิตย์กระทำ และจะเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงจากจุดเดิม แทนการโคตรไปเรื่อยๆ
- หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน อุณหภูมิโลกของเราจะลดลงอย่างรวดเร็ว และภายในระยะเวลา 2 เดือน อุณหภูมิก็จะติดลบ 92 องศา และอีก 4 เดือนผ่านไป อุณหภูมิก็ลดต่ำลงไปอีกถึง 162 องศา
- เมื่อทุกอย่างบนโลกกลายเป็นน้ำแข็ง อุณหภูมิโลกจะอยู่ที่ 204 องศาเซลเซียส บรรยากาศของโลกจะไม่สามารถป้องกันโลกจากอันตรายของรังสีคอสมิก
- พืชที่สังเคราะห์แสงทุกชนิดจะตายทั้งหมด แต่สำหรับต้นไม้บางสายพันธุ์อาจอยู่รอดได้อีกสักช่วงเวลาหนึ่ง
- ในระยะเวลาสองเดือน หลังจากที่ดวงอาทิตย์หายไป พื้นผิวมหาสมุทรจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด สัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่เขตน้ำตื้นอาจจะตายหมด แต่ถ้าเป็นสัตว์ทะเลน้ำลึกอาจอยู่รอดได้บ้างบางส่วน
- สัตว์ที่กินเนื้ออาจจะยังมีชีวิตอยู่ได้ เพราะอาศัยกินซากสัตว์อื่นๆ แต่สุดท้ายเมื่ออาหารหมด พวกมันก็ต้องตายเหมือนกัน
- มนุษย์อย่างเราอาจจะตายอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าคุณอยากอยู่รอด คงต้องหาที่อยู่ในที่ที่ปิดสนิท และมีแหล่งพลังงานให้ความอบอุ่นเพียงพอ
- แบคทีเรียบางชนิดจะกลายเป็นผู้ครองโลกของเรา
- ไม่มีแสงสว่างให้ใช้งาน งานทุกงานต้องใช้แสงสว่าง ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหนังสือ หรือแม้กระทั่ง การทำงาน แต่มันก็มีวิธีแก้ คือ ถ้ามนุษย์นำน้ำทะเลมาผลิตพลังงานได้
- โรคระบาดแพร่กระจาย ตามที่กล่าวถึงข้อ 8 โรคระบาดจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เพราะแสงสว่างเป็นตัวทำลายเชื้อแบคทีเรีย
- ไม่มีระบบหมุนเวียนของน้ำ เพราะไม่มีพระอาทิตย์ มันดูดจากทะเล พัดเข้าหาฝั่งกลายเป็นระบบหมุนเวียนน้ำ(แบบไม่อาศัยสิ่งมีชีวิต)ดังนั้น เมื่อขาดพระอาทิตย์ที่เป็นตัวกลางแล้ว ระบบนี้ก็หายไป ส่วนอีกแบบคือ อาศัยสิ่งมีชีวิต ก็ทำการผลิตน้ำได้ไม่มาก เพราะส่วนใหญ่จะกลายเป็นแก๊สในอากาศซะมากกว่า
- แสงเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของเรา เช่น แสงทำให้กระดูกแข็งแรง ดังนั้น คนจะมีร่างกายเสื่อมโทรมลงแล้วตายลงในที่สุดไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใด
- โลกจะหมุนอย่างไร้ทิศทางถ้าไม่มีดวงอาทิตย์ และจะไม่มีฤดูกาล

มาต่อกันที่ข้อมูลของดวงอาทิตย์ นักดาราศาสตร์ได้อธิบายถึงดวงอาทิตย์เอาไว้ว่า ดวงอาทิตย์ (The Sun) คือดาวฤกษ์ ที่อยู่ตรงศูนย์กลางของระบบสุริยะ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 ล้านกิโลเมตร หรือ 109 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางโลก อยู่ห่างจากโลก 149,600,000 กิโลเมตร หรือ 1 หน่วยดาราศาสตร์ (AU) ดวงอาทิตย์มีมวลมากกว่าโลก 333,000 เท่า แต่มีความหนาแน่นเพียง 0.25 เท่าของโลก
เนื่องจากมีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจน 74% ฮีเลียม 25% และธาตุชนิดอื่น 1% แรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ ทำให้มวลสารของดาวกดทับกัน ที่แก่นกลางของดวงอาทิตย์มีอุณหภูมิสูงถึง 15 ล้านเคลวิน เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่โปรตอน – โปรตอน (P-P chain) โดยโปรตอนของไฮโดรเจน 6 ตัว รวมตัวกันเป็นฮีเลียม 1 อะตอม และโปรตอนของไฮโดรเจน 2 ตัว
ในปัจจุบันดวงอาทิตย์มีกำลังส่องสว่าง 3.9 x 1026 ล้านวัตต์ ทำให้ทราบว่า ทุกๆ 1 วินาที ดวงอาทิตย์เผาไหม้ไฮโดรเจนจำนวน 600,000 ล้านกิโลกรัมให้กลายเป็นฮีเลียม นักวิทยาศาสตร์คำนวณอัตราการเผาไหม้ กับปริมาณไฮโดรเจนและฮีเลียมที่มีอยู่บนดวงอาทิตย์ ทำให้ทราบว่าดวงอาทิตย์มีอายุประมาณ 4,600 ล้านปีมาแล้ว และยังคงเหลือไฮโดรเจนให้เผาไหม้ต่อไปได้อีก 5,000 ล้านปี
ดวงอาทิตย์เป็นก้อนแก๊สซึ่งมีอุณหภูมิสูงจนอะตอมของไฮโดรเจนสูญเสียอิเล็กตรอนกลายเป็นประจุทุกๆ วินาที เราเรียกสถานะนี้ว่า “พลาสมา” (Plasma) ดวงอาทิตย์ปลดปล่อยมวลสู่อวกาศในรูปของลมสุริยะ (Solar Wind) ลมสุริยะไม่ใช่กระแสลมในบรรยากาศ แต่เป็นกระแสอนุภาคพลังงานสูงซึ่งเกิดจากแก๊สร้อนของดวงอาทิตย์สูญเสียประจุสู่ห้วงอวกาศในรูปของโปรตอน อิเล็กตรอน และอนุภาคอื่นๆ ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 450 กิโลเมตร/วินาที โดยจะใช้เวลาในการเดินทางถึงโลกประมาณ 4 วัน
ในขณะที่รังสีจากดวงอาทิตย์ใช้เวลาเดินทางถึงโลกเพียง 8 นาทีครึ่ง โดยปกติลมสุริยะไม่มีความรุนแรงมากนัก แต่ในบางครั้งที่ดวงอาทิตย์มีการลุกจ้า (Solar Flare) หรือการปล่อยก้อนมวลจากคอโรนา (CME) ออกมาจำนวนมากจนกลายเป็นพายุสุริยะ (Solar storm) อนุภาคเหล่านี้อาจสร้างความเสียหายแก่ดาวเทียม ยานอวกาศ ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและระบบไฟฟ้า รวมทั้งทำลายโครงสร้าง DNA ของสิ่งมีชีวิต
ชวนเที่ยวคีรีวง หมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดนครราชสีมา แหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงชีวิตความเป็นอยู่ สายใยของการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนและธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน และลงตัว ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหเหล่านักท่องเที่ยวหลายๆ คนถึงติดใจและหลงในเสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้
สรุปเลยแล้วกันว่ามีโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะหายไปหรือไม่ ก็ตอบเลยว่ามีโอกาสอย่างแน่นอนแต่คงไม่เร็วๆนี้ มันอาจเกิดขึ้นในอีก พันล้านปีข้างหน้าดังนั้นเพื่อนๆ ควรทำใจรอตั้งแต่วันนี้เลย อะไรที่ยังไม่เคยทำก็รีบทำ ธุรกิจไหนที่ยังไม่ลองก็รีบลองอย่างเช่น 4 ธุรกิจที่อาจสร้างความยั่งยืนให้กับคุณได้ ซึ่งมันอาจจะช่วยให้คุณได้กล้าทำธุรกิจมากขึ้น